วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

งานคอมมาร์ท 2014 Commart Comtech 2014 วันที่ 6-9 พ.ย.นี้

งานคอมมาร์ท 2014 Commart Comtech 2014


ขอขอบคุณภาพประกอบจาก เฟซบุ๊ก Commart Thailand

          งาน Commart Comtech 2014 มหกรรมสินค้าไอที ที่คนไอทีไม่ควรพลาด วันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

         ฤกษ์ดี มหกรรมไอทีส่งท้ายปี Commart Comtech 2014 (คอมมาร์ต คอมเทค ไทยแลนด์ 2014) วันที่ 6-9 พฤศจิกายน 2557 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ปรับโฉมเพื่อตอกย้ำความเป็นเบอร์ 1 งานแสดงและจำหน่ายสินค้าไอทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของไทย ภายใต้คอนเซ็ป The NEW LOOK : work – play – showcase เต็มอิ่มไปกับเทคโนโลยีรุ่นใหม่ ทั้ง Drone, Android wear , Surface 3, ไอโฟนรุ่นล่าสุด และอื่นๆ เพียบ ที่ขนมาให้เลือกสรรตามไลฟ์สไตล์สาวกไอที

          ในงาน Commart Comtech 2014 ครั้งนี้มีสินค้ามากมายหลายแบรนด์ หลากกลุ่มสินค้า ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก สมาร์ทโฟน กล้องดิจิตอล อุปกรณ์เก็ตเจ็ต รวมถึงอุปกรณ์ต่อพ่วงและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ มากมายให้ได้เลือกซื้อกันตามต้องการ ซึ่งความพิเศษของงานนี้จะแตกต่างจากที่ผ่านมา  โดยนอกจากการเป็นศูนย์รวมการจำหน่ายอุปกรณ์ไอทีรุ่นใหม่คุณภาพดีราคาถูกแล้ว ยังได้เพิ่มกิจกรรมสุดเซอร์ไพรส์มากมาย และยังมีกิจกรรมลุ้นรับ iPhone รุ่นใหม่ล่าสุดฟรี (มีจำนวน 2 เครื่อง) เพียงลงทะเบียนหน้างานพร้อมรับของที่ระลึก (ของมีจำนวนจำกัด) หรือลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์งาน Commart Comtech 2014 เพื่อลุ้นรับบัตร Starbucks 200 ใบ เท่านั้นยังไม่พอ ถ้าหากซื้อสินค้าภายในงานครบ 3,000 บาทขึ้นไป จะได้สิทธิ์ลุ้นรับสร้อยคอทองคำ 50 เส้นอีกด้วย

          ทั้งนี้ท่านที่สนใจสามารถติดตามโปรโมชั่นล่าสุดของสินค้าภายในงานได้แล้ววันนี้ที่ โปรโมชั่นงาน Commart Comtech 2014 และสามารถมาพูดคุยกันได้ที่ Linecommartline

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557

ลือ ! Apple Watch วางขายเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า รุ่นท็อปราคาทะลุแสน





Apple Watch



Apple Watch

ขอขอบคุณภาพประกอบจาก Apple 

        ลือ ! Apple Watch เตรียมวางขายครั้งแรกเดือนกุมภาพันธ์ปีหน้า พร้อมเผยราคา Apple Watch รุ่นท็อปทะลุแสน

        เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ iGen ของฝรั่งเศส ออกมาเปิดเผยข้อมูลเรื่องกำหนดการวางขายและราคาของ Apple Watch นาฬิกาข้อมืออัจฉริยะตัวแรกจากแอปเปิล โดยบอกว่าแอปเปิลจะเริ่มวางขาย Apple Watch ในช่วงวันวาเลนไทน์ 14 กุมภาพันธ์ปีหน้า และราคาของ Apple Watch Sport รุ่นถูกสุดจะวางขายที่ 349 ดอลลาร์ หรือประมาณ 11,400 บาท รองลงมาเป็น Apple Watch Apple Watch รุ่นปกติ ตัวเรือนเป็นสเตนเลสสตีล หน้าจอกระจกแซฟไฟร์ ราคา 500 ดอลลาร์ หรือประมาณ 16,300 บาท และรุ่นท็อปสุดหรู Apple Watch Edition ตัวเรือนทำจากทองคำ 18 กะรัต หน้าจอกระจกแซฟไฟร์ ราคาทะลุไป 4,000-5,000 ดอลลาร์ หรือประมาณ 130,000-160,000 บาทกันเลยทีเดียว

        ทั้งนี้ Apple Watch สามารถใช้งานร่วมกับ iPhone รุ่นที่รองรับการเชื่อมต่อแบบ Bluetooth LE เท่านั้น ได้แก่ iPhone 5, iPhone 5s, iPhone 5c, iPhone 6 และ iPhone 6 Plus สำหรับใครที่สนใจก็เตรียมตัวจับจองเป็นเจ้าของกันได้ในปีหน้า แต่ก็รู้สึกราคาจะแรงไปนิดตามสไตล์แอปเปิล 

วันจันทร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สิงคโปร์คิดค้นแบตเตอรี่ชาร์จไฟได้ 70% ใน 2 นาที มีอายุการใช้งาน 20 ปี

สิงคโปร์คิดค้นแบตเตอรี่ชาร์จไฟได้ 70% ใน 2 นาที มีอายุการใช้งาน 20 ปี

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก phonearena.com


           มหาวิทยาลัยในสิงคโปร์คิดค้นเซลล์แบตเตอรี่ชาร์จไฟได้ 70% ใน 2 นาที มีอายุการใช้งานยาวนาน 20 ปี

           เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2557 เว็บไซต์ phonearena.com ได้เปิดเผยเซลล์แบตเตอรี่ชนิดใหม่ที่คิดค้นโดยมหาวิทยาลัย Nanyang Technology ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งเซลล์แบตเตอรี่ดังกล่าวสามารถชาร์จไฟได้ถึง 70% ภายในเวลาเพียง 2 นาทีเท่านั้น อีกทั้งยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 20 ปีเลยทีเดียว ด้วยการใช้วิธีเร่งปฏิกิริยาทางเคมีภายในเซลล์ของแบตเตอรี่

          เซลล์แบตเตอรี่ดังกล่าวใช้ไทเทเนียมไดออกไซด์เป็นขั้วแอโนด แทนที่จะใช้กราไฟต์เหมือนกับแบตเตอรี่ทั่วไปที่ใช้กันในปัจจุบัน ซึ่งมีผลให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น โดยสามารถชาร์จได้ถึง 10,000 ครั้ง จากปกติที่สามารถชาร์จได้ 500 ครั้ง นอกจากนี้ไทเทเนียมไดออกไซด์ที่ใช้นั้นยังมีราคาถูกและผลิตได้ง่ายกว่า เนื่องจากวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตนั้นสามารถหาได้ทั่วไปในดิน และถูกใช้ในเป็นสารปรุงแต่งอาหารหรือใช้เป็นตัวดูดซึมลำแสง UV ในสารกันแดด โดยใช้วิธีแปลงไทเทเนียมไดออกไซด์จากรูปทรงกลมให้เป็นท่อที่มีขนาดเล็กกว่าเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ถึงพันเท่า ทำให้ปฏิกิริยาทางเคมีทำงานได้เร็วขึ้น

          ทั้งนี้คาดว่าเซลล์แบตเตอรี่ดังกล่าวน่าจะสามารถผลิตออกมาสู่ตลาดได้จริงในปี 2016 ซึ่งคาดว่าตลาดแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนน่าจะมีมูลค่าถึง 23.4 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐ ภายในช่วง 2 ปีนี้ ซึ่งเซลล์แบตเตอรี่ชนิดใหม่นี้น่าจะถูกนำมาใช้กับสมาร์ทโฟนและช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้ยาวนานนับสิบปีโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ แถมยังสามารถชาร์จได้เต็มภายในเวลาอันสั้นอีกด้วย

วันจันทร์ที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2557

กลุ่มฟิสเช่อร์ออดิโอ เปิดตัว 3 แบรนด์ kennerton, Telefunken และ Fischer ตอบโจทย์คนรักเสียงเพลง ตั้งแตไฮเอ็น จนถึงตลาดแมส

IMG_0070
Audion1

ฟิสเช่อร์ ออดิโอ  (Fischer Audio) ผู้ผลิตและจำหน่ายหูฟังที่กำลังเป็นที่นิยมทั้งในรัสเซียและยุโรป จับมือ บริษัท เจนเนอเรชั่น เอส จำกัด ตัวแทนจำหน่ายหูฟังระดับพรี่เมียม เปิดตลาด 3 แบรนด์หลักในประเทศไทย โดยวางตำแหน่งทางการตลาดครอบคลุม ตลาดไฮเอ็น ตลาดระดับกลาง และตลาดแมสด้วยคุณภาพเสียงเกินราคา
นายสรศักดิ์ วงศ์ชินศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เจนเนอเรชั่น เอส จำกัด กล่าวว่า “หูฟัง ฟิสเช่อร์(Fischer) เป็นแบรนด์ใหม่ในตลาดที่น่าจับตามอง เพราะกลุ่มฟิสเช่อร์ออดิโอ ได้นำ แบรนด์ Kennerton  ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับไฮเอ็น มาพร้อมกับ Telefunken  ที่เคยมีชื่อเสียงระดับตำนานกลับมาวางตลาดใหม่ในราคาระดับกลาง  และ Fischer แบรนด์ที่วางตลาดแมส ด้วยคุณภาพเกินราคา”

มิสเตอร์ วาเลนทิน คาซานชิ ประธานและผู้ก่อตั้ง ฟิสเช่อร์ ออดิโอ  (Fischer Audio) กล่าวว่า “Fischerเกิดจากแรงบันดาลใจ ในฐานะที่เป็นวิศวกร ทำงานด้านการผลิตเครื่องเสียงกว่า 25 ปี ผมมุ่งมั่นในการสร้างFischer Audio ให้เป็นหูฟังที่มีรูปแบบเป็นเอกลักษณ์ ใช้วัสดุที่ดี คุณภาพเสียงสมบูรณ์แบบให้กับลูกค้า ด้วยราคาที่คุ้มค่า  ด้วยแนวคิดนี้ เราได้ความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างรวดเร็วในรัสเซีย และยุโรป และผมรู้สึกยินดีมากได้ร่วมงานกัน บริษัท เจนเนอเรชั่น เอส ตัวแทนจำหน่ายที่มีประสบการณ์ ในประเทศไทย ที่จะแนะนำ แบรนด์ Kennerton แบรนด์ Telefunken และ Fischer ให้ลูกค้าคนไทยได้รู้จัก”
มิสเตอร์ อิริค ฉั่ว กรรมการบริหาร ฟิสเช่อร์ เอเชีย กล่าว่า “ตลาดหูฟังในเอเชีย เติบโตอย่างรวดเร็ว และคนเอเชีย เปิดรับสิ่งใหม่ๆ ซึ่งทำให้กลุ่ม Fischer Audio ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วในสิงคโปร์ ซึ่งผมคาดว่าตลาดหูฟังของประเทศไทยจะต้อนรับ ทั้งสามแบรนด์ของเราเป็นอย่างดี และช่วงเปิดตัวนี้ จะขอแนะนำ หูฟังที่กำลังมาแรงในต่างประเทศ คือ หูฟัง Fischer รุ่น Consonance v.2  หูฟัง Telefunken รุ่น Audion และ หูฟัง Kennerton รุ่น Algiz ”
Kennerton เป็นแบรนด์หรูของ ฟิสเชอร์ออดิโอ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้หูฟังคุณภาพเสียงระดับไฮเอนด์ จากการที่ได้ติดตามวิวัฒนาการของอุตสาหกรรมเครื่องเสียงมาเป็นเวลานาน พบว่าหูฟังคุณภาพเสียงดี ดีไซน์ทันสมัยที่เป็นสีสันในอุตสาหกรรมลดลงไปมาก และแบรนด์ที่มีชื่อเสียงหันมาผลิตหูฟังคุณภาพลดลงกว่าเดิม ฟิสเชอร์จึงหันมาให้ความสำคัญกับตลาดนี้  ซึ่งรุ่นที่จะแนะนำ คือ หูฟัง Kennerton รุ่น Algiz ไดร์เวอร์ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง พร้อมไดนามิกขนาด 10mm ให้เสียงคมชัด แม่นยำกว่าเมื่อเทียบกับโซลูชันอื่น ๆ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไดร์เวอร์ส่วนใหญ่สามารถเล่นได้แค่จาก 10kHz ถึง 10kHz เพียงอย่างเดียว แต่ไดร์เวอร์ของ Algiz สามารถเล่นจาก 20Hz ถึง 20kHz ได้อย่างง่ายดายและครอบคลุมทุกความถี่ที่หูของมนุษย์สามารถรับได้ สายออดิโอไฟล์เกรดพรีเมี่ยม สามารถถอดแยกออกจากตัวหูฟังได้อีกด้วย การควบคุมด้วยรีโมทคอนโทรล เพื่อความสะดวกในการนำไปใช้กับมาร์ทโฟนทั่วไป และยังมีสายถึง 2 แบบให้เลือกใช้ตามความต้องการ
หูฟัง Fischer รุ่น Consonance v.2 ราคา 3,890 บาท  หูฟัง Telefunken รุ่น Audion ราคา 15,900 บาท และ หูฟัง Kennerton รุ่น Algiz ราคา 13,900 บาท นอกจากนี้ยังมีรุ่นอื่นๆให้ได้เลือกอีกมากมาย หูฟังทั้ง 3 แบรนด์ วางขายที่ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ร้านมั่นคง  Loft และ Be Trend  สินค้ารับประกัน 1 ปีขึ้นไป ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ โทร 02-2740665  หรือที่  www.facebook.com/MultigadgetStore

พบผู้ป่วยเสพติด Google Glass คนแรกของโลก

 เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2557 เว็บไซต์สกายนิวส์ รายงานว่า นักวิทยาศาสตร์พบผู้ป่วยโรคเสพติด Google Galss เป็นเคสแรกของโลก หลังจากเขามีพฤติกรรมใช้ Google Glass ตลอดเวลา ยกเว้นเวลานอนหลับและตอนอาบน้ำ

                ผู้ป่วยเสพติด Google Glass รายนี้ เป็นทหารช่างในหน่วยนาวิกโยธินสหรัฐฯ วัย 31 ปี นักวิทยาศาสตร์พบว่าเขามีพฤติกรรมเสพติดแว่นตา Google Glass เป็นอย่างมาก โดยในแต่ละวันเขาจะสวมแว่นตานี้ถึง 18 ชั่วโมง ยกเว้นเวลานอนและเวลาอาบน้ำ และจะเกิดอาการหงุดหงิดไม่พอใจเมื่อไม่สามารถใช้แว่นตา Google Glass ได้ 

                จากพฤติกรรมดังกล่าวทำให้เขาต้องเข้ารับการบำบัดอย่างจริงจัง และเขาเองก็ยังไม่วายถามหาแว่นตา Google Glass อยู่ตลอด พร้อมกับยอมรับว่าถ้าไม่ได้ใช้ จะรู้สึกโมโหอย่างรุนแรง ซึ่งแม้ว่าอาการของเขาจะไม่ได้รับการวินิจฉัยโดยแพทย์ แต่การแสดงอารมณ์ออกมาเมื่อไม่ได้ใช้แว่น และการวิเคราะห์อากัปกิริยา ก็พอจะแสดงให้เห็นว่าเขาเสพติดแว่นนี้อย่างแท้จริง

                อย่างไรก็ดี หลังจากเข้ารับการบำบัดเป็นเวลา 35 วัน พบว่าชายรายนี้มีอาการหงุดหงิดน้อยลงเมื่อไม่ได้ใส่ Google Glass ขณะที่ทาง Google ผู้พัฒนาเทคโนโลยีดังกล่าว ปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใด ๆ ต่อกรณีนี้

                ทั้งนี้อาการเสพติดดังกล่าวเป็นลักษณะเดียวกันกับพฤติกรรมเสพติดอินเทอร์เน็ตและสมาร์ทโฟน ซึ่งปัจจุบันมีคนเป็นกันมากทั่วโลก


วันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2557

สิ่งประดิษฐ์ (iC-HiEd 2014)

?สิ่งประดิษฐ์‘iC-HiEd 2014’ - ฉลาดสุดๆ?
คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทค โนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) จัด “โครงการถ่ายทอดองค์ความรู้และประกวดสิ่งประดิษฐ์ (iC-HiEd 2014)” ระดับปริญญาตรี-โท-เอก ชิงรางวัลทุนการศึกษารวม 3 แสนบาท ขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้
โดยการประกวดมีผลงานที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ จำนวนรวม 25 ผลงาน เป็น พลังงานทางเลือก 8 ผลงาน เครื่องมือแพทย์ จำนวน 5 ผลงาน และเครื่องจักรกลการเกษตร จำนวน 12 ผลงาน ซึ่งผลตัดสินของคณะกรรมการ ปรากฏว่า 3 สิ่งประดิษฐ์สุดยอดที่มีไอเดียน่าทึ่ง โดยฝีมือคนรุ่นใหม่ ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ประเภทพลังงานทางเลือก คือ รถปั่นพลังงานคน 20 ที่นั่ง รางวัลชนะเลิศประเภทเครื่องจักรกลการเกษตร คือ หุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าวราคาประหยัดเพื่อกำจัดศัตรูพืช และรางวัลชนะเลิศสิ่งประดิษฐ์ประเภทเครื่องมือแพทย์ คือ ชุดถอดประกอบรถเข็นคนพิการแบบใช้ไฟฟ้า
น.ส.วรรณวิภา ราศี หัวหน้าทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของผลงาน รถปั่นพลังงานคน 20 ที่นั่ง กล่าวว่า ผลงานรถปั่นพลังงานคน 20 ที่นั่ง มาจากแนวคิดรถที่ไม่ต้องพึ่งพาพลังงานจากน้ำมันฟอสซิล และไร้มลพิษ แถมได้ออกกำลังกายเสริมสุขภาพให้แข็งแรงและเสริมสร้างความสามัคคีในหมู่คณะ เหมาะสำหรับใช้ภายในหน่วยงานองค์กร เช่น รถทัศนาจรภายในมหาวิทยาลัย
“ใช้เวลาออกแบบและผลิตประมาณ 6 เดือน ตัวถังเป็นรถบัสขนาดมาตรฐานตามกฎหมายการขนส่งที่เคลื่อนที่โดยใช้คนปั่น 20 ที่นั่ง ซึ่งมีแป้นถีบ จานและโซ่แบบจักรยาน รถมีเพลา 6 แถว และส่งกำลังผ่านโซ่ ขับเพลารวมไปที่เกียร์ ขับเคลื่อนล้อหลัง ในการขับเคลื่อนจะมีผู้คุมรถซึ่งทำหน้าที่เหยียบปล่อยคลัตช์เข้าเกียร์กระปุก 1-2-3 ตามระดับความเร็ว และเกียร์ถอยหลัง รวมทั้งการเหยียบเบรกเพื่อชะลอและหยุดรถ ส่วนเกียร์เป็นแบบทดแรงช่วยให้คนปั่นไม่ต้องออกแรงมากจนเกินไป นอกจากนี้ยังมีไดนาโมสำหรับเก็บแรงปั่นเป็นไฟฟ้าสำหรับใช้กับไฟหน้า ไฟเลี้ยวและไฟภายในรถ น้ำหนักรถ 2 ตัน มีความเร็วสูงสุด 20 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง นับเป็นพาหนะที่ใช้พลังงานทางเลือกและเป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”
ขณะที่รางวัลชนะเลิศประเภทเครื่อง จักรกลการเกษตร นายนวภัณฑ์ ศุภวัตน์ หัวหน้าทีมจากสถาบันวิทยาการหุ่นยนต์ภาคสนาม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี เจ้าของผลงานสิ่งประดิษฐ์ หุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าวสำหรับกำจัดศัตรูพืช กล่าวว่า แรงบันดาลใจในการสร้าง หุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าว มาจากการได้ศึกษาข้อมูลปัญหาของเกษตรกรสวนมะพร้าว ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศไทย และไทยเราเป็นผู้ผลิตมะพร้าวรายใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันสวนมะพร้าว ทางภาคใต้มักจะประสบปัญหาเรื่องแมลงหนอนหัวดำระบาด กัดกินใบและยอดมะพร้าวทำให้มะพร้าวยืนต้นตายจำนวนมากในพื้นที่ระบาด เกษตรกรบางรายถึงขั้นทิ้งสวนมะพร้าวเพราะไม่รู้จะจัดการอย่างไรกับปัญหานี้ดี
จึงได้ออกแบบหุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าวทำด้วยวัสดุอะลูมิเนียมมีน้ำหนักเบาโดยมีแท็งก์พร้อมหัวฉีดด้านหลังบรรจุยาหรือสารกำจัดศัตรูพืชได้ 2 ลิตร ใช้พลังงานจากแบตเตอรี่ 12 โวลต์ เคลื่อนที่ขึ้น-ลงด้วยล้อ 3 ล้อที่ทำจากวัสดุซูพิลีน ผู้ใช้ควบคุมการทำงานหุ่นยนต์ด้วยรีโมตคอนโทรล เมื่อหุ่นยนต์ไต่ขึ้นถึงยอดแล้วจะฉีดพ่นใต้ใบมะพร้าว ซึ่งแต่ก่อนเกษตรกรใช้รถเครนบรรทุกถังฉีดแล้วต่อท่อหัวฉีดแรงดันสูง ซึ่งสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายและเปลืองปริมาณสารกำจัดศัตรูพืชสูงถึง 10 ลิตรต่อต้น ส่วนคนที่ฉีดยาจะโดนละอองของสารเคมีไปด้วย หุ่นยนต์ไต่ต้นมะพร้าวจึงสามารถช่วยเกษตรกรประหยัดค่าใช้จ่ายยาปราบศัตรูพืช โดยลดปริมาณการใช้ยากำจัดศัตรูพืชจาก 10-20 ลิตรต่อต้น ให้เหลือเพียง 2 ลิตรต่อต้น รวมทั้งเพิ่มความปลอดภัยต่อเกษตรกรและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับเกษตรกร การประดิษฐ์เน้นราคาประหยัด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรที่มีรายได้น้อย
สุดท้ายเป็นผลงาน ชุดถอดประกอบรถเข็นคนพิการแบบใช้ไฟฟ้า โดย นายพงษ์สิทธ์ มิสา หัวหน้าทีมจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เจ้าของผลงานสิ่งประดิษฐ์ กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีประชากรผู้ป่วยที่ต้องนั่งวีลแชร์และพิการหลายล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นเนื่องด้วยไทยจะก้าวเป็นสังคมคนสูงวัยมากขึ้น แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานนี้เพื่อจะได้ช่วยให้ผู้พิการที่นั่งวีลแชร์อยู่แล้วสามารถเพิ่มการติดตั้งชุดถอดประกอบรถเข็นคนพิการแบบใช้ไฟฟ้าเข้ากับส่วนหน้าของวีลแชร์ สำหรับการสัญจรภายในและนอกอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“จุดเด่นของชุดถอดประกอบรถเข็นคนพิการแบบใช้ไฟฟ้า คือ มีน้ำหนักเพียง 20 กิโลกรัม ด้วยการออกแบบข้อต่อแบบพิเศษ ทำให้ผู้พิการสามารถถอดประกอบได้ด้วยตนเองและสะดวกง่ายดายเพียงยกแล้วหมุนบิดลงล็อก ส่วนปุ่มบังคับการเคลื่อนที่จะอยู่บนมือจับด้านขวา ล้อหน้าเมื่อวิ่งไปกระทบพื้นลูกคลื่นหรือทางชันบนฟุตปาธจะยก 2 ล้อหน้าของวีลแชร์ขึ้น ลดแรงสะเทือนลง ทำให้วิ่งได้เรียบด้วยล้อหน้า และ 2 ล้อหลังของวีลแชร์ ส่วนแบตเตอรี่ลิเธียมสามารถทำงานได้ 4-5 ชั่วโมงต่อการชาร์จไฟ หนึ่งครั้ง ไม่มีมลพิษ สิ่งประดิษฐ์นี้จึงช่วยให้ผู้พิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทั้งร่างกาย จิตใจและสังคม สามารถช่วยเหลือตัวเอง และทำภารกิจในชีวิตประจำวันได้สะดวกขึ้น เป็นอุปกรณ์ในราคาประหยัดและช่วยลดการนำเข้า” นายพงษ์สิทธ์ กล่าว
ผศ.ดร.คมสัน มาลีสี คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นความสนใจ การพัฒนาและถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศไทยให้ยั่งยืน ช่วยลดการนำเข้าและการพึ่งพาจากต่างประเทศ และสร้างเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมและผลงานประดิษฐ์คิดค้นด้านพลังงานทางเลือก เครื่อง จักรกลการเกษตรและเครื่องมือทางการแพทย์ พร้อมสร้างพันธมิตรและเครือข่ายความร่วมมือในการวิจัยสิ่งประดิษฐ์ของนิสิตนักศึกษาในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาของประเทศไทยด้วย
นับว่าเป็นสิ่งประดิษฐ์จากเยาวชนคนรุ่นใหม่ ซึ่งทุกผลงานสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและพลังสร้างสรรค์พร้อมไอเดียของคนไทยที่สามารถตอบโจทย์และนำไปใช้ประโยชน์เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาสังคมได้จริง.

ฟรอสต์ เผยแม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวแต่ตลาดสมาร์ทโฟนไทยยังโตได้ไม่ต่ำกว่า 30%


?ฟรอสต์ชี้ปีนี้สมาร์ทโฟนไทย โตไม่ต่ำกว่า13ล้านเครื่อง?

ฟรอสต์ เผยแม้เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวแต่ตลาดสมาร์ทโฟนไทยยังโตได้ไม่ต่ำกว่า 30% หรือประมาณ 13 ล้านเครื่อง ชี้อานิสงส์จากคนเล่นโซเชียลมากขึ้น และสมาร์ทโฟนถูกลง
นายธีระ กนกกาญจนรัตน์ นักวิเคราะห์ อุตสาหกรรมไอซีทีอาวุโส จากบริษัท ฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก เปิดเผยถึงภาพรวมตลาดสมาร์ทโฟนไทยว่า ภายในสิ้นปีนี้ คาดว่ายอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนในประเทศไทยจะเติบโตมากกว่าปีที่แล้วไม่ต่ำกว่า 30% หรือประมาณ 13 ล้านเครื่อง โดยได้อานิสงส์จาก 3 ปัจจัยหลัก คือ สภาพตลาดสมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดที่มีตัวเลือกมากขึ้น ความต้องการใช้งานโซเชียล มีเดียที่เพิ่มขึ้น และความนิยมของการทำธุรกรรมพาณิชย์ผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่หรือโมบายคอมเมิร์ซที่มีมากขึ้น
ทั้งนี้ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา ตลาดสมาร์ทโฟนเติบโตขึ้นมาก บริษัทผู้ผลิตสมาร์ท โฟนทยอยนำสินค้ารุ่นใหม่ ๆ ออกสู่ตลาด ด้วยราคาที่ลดต่ำลงส่งผลให้คนไทยหันมาเลือกซื้อสมาร์ทโฟนมากขึ้นแทนที่โทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนแบบดั้งเดิม ซึ่งฟรอสต์ ประเมินว่า ถึงสิ้นปีนี้ ยอดขายโทรศัพท์สมาร์ทโฟนในไทยจะอยู่ที่ประมาณ 60% ของตลาดมือถือทั้งหมด และอีก 40% จะเป็นโทรศัพท์ชนิดฟีเจอร์โฟน
นอกจากนี้ ปัจจัยหลักอีกประการที่ผลักดันการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในไทย คือกระแสความนิยมการใช้งานโซเชียล มีเดีย ซึ่งจากผลสำรวจพบว่าคนไทยใช้เวลาโดยเฉลี่ย 3.1 ชั่วโมงต่อวัน กับการออนไลน์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ และโดยเฉลี่ย 2.6 ชั่วโมงต่อวันเพื่อท่องโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นเวลาที่มากกว่าเวลาที่ใช้กับสื่ออื่น ๆ เช่น การดูโทรทัศน์
นายธีระ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าปริมาณสมาร์ทโฟนจะเติบโตขึ้น แต่เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังไม่ฟื้นตัวดีนัก ทำให้สมาร์ทโฟนที่ทำตลาดได้ดีนั้นเป็นรุ่นที่มีราคาไม่สูง มูลค่าโดยรวมของการซื้อขายในตลาดอาจไม่เติบโตจากปีที่แล้วมากนัก แม้ว่าจำนวนเครื่องที่จำหน่ายจะมีจำนวนมากขึ้นก็ตาม.

วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557

microsoft เปิดตัว Nokia Lumia 830 มาพร้อมกล้อง PureView 10 ล้านพิกเซล ขนาดบางเบา ในราคา 13,900 บาท

Lumia-830_group1


ได้ฤกษ์เปิดตัวกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วสำหรับสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดในตระกูล Lumia ซึ่งได้จัดงานเปิดตัวขึ้นที่ประเทศเยอรมัน (ในวันที่ 4 ก.ย.2557) โดยทาง Microsoft ได้เริ่มเปิดตัวจากสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปหรือ Flagship ตัวแรก ซึ่งก็คือ Lumia 830
Lumia 830 ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นท๊อปในตระกูล Lumia ที่มีการออกแบบตัวเครื่องมาได้เบาและบางที่สุด โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 8.5 มม. และมีน้ำหนักเพียง 150 กรัม และยังได้มีการผสานเข้ากับเทคโนโลยีการถ่ายภาพ PureView รวมถึงการชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สายหรือ Wireless Charging เข้ามาอีกด้วย ส่วนสเป็คของ Lumia 830 จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างนั้น ลองมาติดตามดูกันเลยดีกว่า
ตัวเครื่องบาง 8.5 มม. น้ำหนัก 150 กรัม
  • CPU 1.2 GHz quad-core Qualcomm Snapdragon 400
  • ระบบปฎิบัติการ Windows Phone 8.1 ( Lumia Denim update )
  • หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ClearBlack IPS-LCD 1280*720p screen รองรับการมองเห็นได้อย่างชัดเจนแม้อยู่กลางแสงแดด กระจกแบบ Gorilla 3.0 glass, รองรับการใช้งานด้วยเล็บและใช้งานด้วยถุงมือ
  • แบตเตอรี่ขนาด 2200 mAh และรองรับการชาร์จแบบไร้สายหรือ Wireless Charging
  • กล้องดิจิตอล PureView ความละเอียด 10 ล้านพิกเซล พร้อมเทคโนโลยี Optical Image Stabilization , แฟลชแบบ LED และเลนส์ ZEISS , กล้องดิจิตอลด้านหน้าความละเอียด 1 ล้านพิกเซล รองรับการถ่ายวีดีโอ 720p
  • หน่วยความจำภายในตัวเครื่อง 16GB รองรับ microSD card สูงสุด 128GB และพื้นที่ใช้งานบน OneDrive ฟรี 15GB
สำหรับสนนราคาของ Lumia 830 นั้นจะอยู่ที่ 330 ยูโร หรือประมาณ 13,900 บาท โดยจะเริ่มวางจำหน่ายในเดือนกันยายนนี้เป็นต้นไป

ไทเทเนี่ยมชี้เฟซบุ๊ก ‘ขันเงิน‘ ปลอม ตอกกลับ ‘เสก โลโซ‘

ไทเทเนี่ยมชี้เฟซบุ๊ก ‘ขันเงิน‘ ปลอม ตอกกลับ ‘เสก โลโซ‘

ไทเทเนี่ยมชี้เฟซบุ๊ก ‘ขันเงิน‘ ปลอม ตอกกลับ ‘เสก โลโซ‘

เป็นดราม่าที่ดูท่าจะลามไปถึงคนอื่นแล้ว หลังจากที่ ร็อกเกอร์ชื่อดัง "" โพสต์ภาพยกเท้าให้ทีวีที่มีฉากของมิวสิควีดีโอของ "ขันเงิน เนื้อนวล" ซึ่งภาพดังกล่าวถูกวิจารณ์อย่างหนักถึงความไม่เหมาะสม แม้แต่แร็ปเปอร์ชื่อดังอย่าง "โจอี้ บอย" ยังถึงกับออกปากว่า ทำเกินไป...
ต่อมามีภาพจากเฟซบุ๊ก "Khan Thaitanium" ออกมาโพสต์ตำหนิเสก โลโซ อย่างหนัก ซึ่งทำให้ใครหลายคนเข้าใจผิดว่าเป็นเฟซบุ๊กของหนุ่มขันเงิน
ล่าสุด เฟซบุ๊กอย่างเป็นทางการของวงไทเทเนี่ยม ได้ออกมาชี้แจงถึงกรณีดังกล่าวแล้ว ว่าผู้ที่ใช้เฟซบุ๊กดังกล่าว ไม่ใช่เฟซบุ๊กของหนุ่มขันเงินแน่นอน พร้อมทั้งระบุเฟซบุ๊กจริงของเจ้าตัว ไว้ให้แฟนคลับได้ติดตามข่าวจริงๆ อีกด้วย

วันอาทิตย์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2557

iPhone 6 เปิดตัวแล้ว : สรุปข้อมูลสเปค และ ฟีเจอร์เด็ด พร้อมราคา และ วันวางจำหน่าย iPhone 6



iPhone 6 เปิดตัวแล้ว : สรุปข้อมูลสเปค และ ฟีเจอร์เด็ด พร้อมราคา และ วันวางจำหน่าย iPhone 6


ในที่สุด Apple ก็ได้ทำการเปิดตัวสมาร์ทโฟนเรือธงอย่าง iPhone 6 ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วพร้อมๆ กับ iPhone 6 Plusที่มีขนาดหน้าจอใหญ่กว่า โดยในส่วนของ iPhone 6 นั้นถือว่ามีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในเรื่องของดีไซน์ และ ฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย โดยในวันนี้ ทีมงานเว็บไซต์ Thaimobilecenter ได้มีการสรุปข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone 6 มาให้ได้ชมกันว่า สมาร์ทโฟนระดับเรือธงรุ่นนี้ จะมีสเปคเป็นอย่างไร และ มีฟีเจอร์อะไรเด็ดๆ ให้ได้ใช้งานกันบ้าง

สเปคในเบื้องต้นของ iPhone 6

- ขนาดตัวเครื่อง 138.1x67x6.9 มิลลิเมตร
- น้ำหนักตัวเครื่อง 129 กรัม
- หน้าจอขนาด 4.7 นิ้ว ความละเอียด 1334 x 750 พิกเซล (326ppi)
- เทคโนโลยีหน้าจอ Retina HD Display
- ชิปประมวลผล Apple A8 แบบ 64Bit
- ชิป Apple M8 Motion coprocessor สำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหวในรูปแบบต่างๆ
- กล้องดิจิตอลความละเอียด 8 ล้านพิกเซล (f2.2)
- ไฟแฟลชด้านหลังแบบ True Tone Flash
- กล้องดิจิตอลด้านหน้า ความละเอียด 1.2 ล้านพิกเซล (f2.2)
- รองรับระบบสแกนลายนิ้วมือ Touch ID
- รองรับการใช้งาน Apple Pay
- รองรับการใช้งาน NFC
- ระบบปฏิบัติการ iOS 8
          


‘สุภิญญา‘ ชี้ ช่อง3 ให้ข้อมูลไม่ตรงข้อเท็จจริง

‘สุภิญญา‘ ชี้ ช่อง3 ให้ข้อมูลไม่ตรงข้อเท็จจริง

 ‘สุภิญญา‘ ชี้ ช่อง3 ให้ข้อมูลไม่ตรงข้อเท็จจริง

วันนี้ (15 ก.ย. 57) บอร์ด กสท. เตรียมพิจารณากรณีช่อง 3 ยื่นข้อเสนอ ออกอากาศคู่ขนาน ขณะที่นางสาวสุภิญญา ขอให้ ช่อง3 คำนึงจรรยาบรรณ หลังมีการให้ข้อมูลไม่ตรงข้อเท็จจริง

นางสาวสุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการ กสทช. ระบุผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว Supinya Klangnarong ชี้แจง หลังสถานีโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ให้ข้อมูลผ่านสื่อฯ ไปยังประชาชน กรณีความพร้อมของโครงข่ายทีวีภาคพื้นดิน ซึ่งโครงข่ายของไทยพีบีเอสที่ช่อง 3 เช่า เพื่อออกอากาศดิจิตอลอยู่ขณะนี้ คืบหน้ากว่าแผนที่วางไว้ มีเพียงของ อสมท. เท่านั้น ที่ยังติดปัญหา ซึ่ง กสทช. กำลังเร่งแก้ไข จึงอยากให้ช่อง 3 แก้ไขข้อเท็จจริงเรื่องนี้ด้วย เพราะจะทำให้ประชาชนเข้าใจผิด และไม่ควรใช้สื่อเป็นเครื่องมือ ปกป้องตนเองแต่เพียงฝ่ายเดียว 

ขณะเดียวกันช่วงเช้าวันนี้ (15 ก.ย.) จะมีการประชุมคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ หรือ กสท. โดยจะพิจารณาข้อเสนอของบริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด ที่ยินดีจะออกอากาศช่อง 3 คู่ขนาน ทั้งระบบอนาล็อก และดิจิตอล โดยเห็นว่า เป็นสัญญาณดี ที่ช่อง 3 คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวม เพราะเป้าหมายของ กสทช. คือ ต้องการให้รายเก่า รายใหม่ ลงมาแข่งขันอย่างเป็นธรรม จากนั้น กลไกตลาดจะเริ่มทำงานบนกติกาใหม่ ผู้บริโภคจะได้ประโยชน์สูงส
อย่างไรก็ตาม ต้องพิจารณาเงื่อนไขของช่อง 3 ก่อนว่ามีอะไรบ้าง และขัดกฎหมายหรือไม่ ซึ่งบอร์ด กสท. ยังมีเวลาเจรจาเรื่องนี้ 15 วัน ก่อนที่โครงข่ายดาวเทียมและเคเบิล จะระงับการออกอากาศ

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2557

ไอเดียสำหรับคนที่ต้องการทำวิจัยด้านห้องสมุดและบรรณารักษ์

ไอเดียสำหรับคนที่ต้องการทำวิจัยด้านห้องสมุดและบรรณารักษ์
                         


idea-library-research


มีเพื่อนๆ หลายๆ คนชอบมาปรึกษาผมเกี่ยวกับเรื่องหัวข้อในการวิจัยด้านห้องสมุดและบรรณารักษ์
วันนี้ผมเลยขอนำเสนอเรื่องนี้เพื่อให้ไอเดียในการเลือกหัวข้อเพื่อทำวิจัยด้านห้องสมุดและบรรณารักษ์นะครับ
เอาเป็นว่าผมเองก็ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรมากมายหรอกนะครับ
แต่ผมก็พอจะแนะนำได้บ้างนิดๆ หน่อยๆ
ยังไงเรื่องหัวข้องานวิจัยเพื่อนๆ คงต้องปรึกษาอาจารย์ด้วยส่วนนึงนะครับ
เรื่องการทำวิจัยด้านห้องสมุดและบรรณารักษ์เท่าที่ผ่านมาที่ผมพบมากๆ เช่น
- การวัดความพึงพอใจในงานบริการต่างๆ ของห้องสมุด….
- การใช้งานทรัพยากรสารสนเทศในห้องสมุด
- การบริการทั่วๆ ไปของบรรณารักษ์
- ฯลฯ
ซึ่งจากหัวข้อยอดนิยมต่างๆ เหล่านี้? จริงๆ แล้วเพื่อนๆ ก็อาจจะนำไปใช้เป็นแนวทางในการทำงานวิจัยส่งอาจารย์ก็ได้
สำหรับผมจะขอเสนอไอเดียเพื่อสร้างความต่างในงานวิจัยสักหน่อยนะครับ
แต่ต้องขอบอกก่อนนะครับว่า อาจจะเน้นไปในวิชาเฉพาะด้านต่างๆ สักหน่อย
เช่น สายไอที, สายการออกแบบ, สายบัญชี ฯลฯ
หากเอาวิชาชีพด้านบรรณารักษ์มารวมกับวิชาในสายอื่นๆ
เพื่อนๆ จะค้นพบงานวิจัยที่น่าสนใจมากมาย อาทิเช่น
บรรณารักษ์ + ไอที
- ห้องสมุดสมัยใหม่กับการใช้เทคโนโลยีในห้องสมุด
- Library 2.0 กับความเป็นไปได้ของห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาในเมืองไทย
- ความคุ้มค่าของการนำโปรแกรม Open Source มาใช้ในห้องสมุด
บรรณารักษ์ + การออกแบบ
- การออกแบบห้องสมุดให้เป็นมิตรต่อผู้ใช้บริการ
- ห้องสมุดที่ตอบสนองด้านการบริการผู้ใช้บริการและการทำงานของบรรณารักษ์
- ประโยชน์และความคุ้มค่าของการจัดทำห้องสมุดเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
บรรณารักษ์ + การบริหาร
- การมีห้องสมุดสามารถทำให้องค์กรก้าวหน้าได้จริงหรือ
- การหาแหล่งเงินทุนเพื่อการสนับสนุนการทำงานของห้องสมุดเป็นไปได้หรือไม่ในสังคมไทย
บรรณารักษ์ + การเงิน
- แนวทางในการลดค่าใช้จ่ายแต่ไม่ลดคุณภาพในการบริการห้องสมุด
- รายได้ของห้องสมุดกับความคุ้มค่าในการจัดการ

นี่ก็เป็นส่วนนึงที่ผมขอเสนอไอเดียนะครับ
นอกจากนี้ผมเคยคุณกับเพื่อนๆ หลายๆ คน ซึ่งแต่ละคนก็มีหัวข้อมาเสนอผมอีกเช่นเดียวกัน เช่น
- ผู้บริหารกับการให้ความสำคัญต่อห้องสมุดภาครัฐและภาคเอกชน
- แหล่งข้อมูล online ที่ใช้ในการสืบค้นสารสนเทศของนักศึกษาในปัจจุบัน
- กิจกรรมการส่งเสริมการอ่านที่ได้ผลจริงกับคนไทยในปัจจุบัน

เอาเป็นว่านี่ก็เป็นเพียงส่วนนึงเท่านั้นนะครับ
หากเพื่อนๆ คนไหนมีไอเดียดีๆ ก็สามารถส่งมาแบ่งปันให้เพื่อนๆ ร่วมวิชาชีพได้รับทราบกันบ้างหล่ะ
ยิ่งถ้าเราช่วยกันคิดกันมากเท่าไหร่ วงการห้องสมุดและบรรณารักษ์ไทยคงพัฒนามากขึ้น

อ้างอิง :http://www.libraryhub.in.th/2010/07/05/idea-for-research-about-library-and-librarian-in-thailand/comment-page-1/#comment-15409

LICENSING สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพบรรณารักษ์ (ควรมีหรือไม่)

LICENSING สำหรับผู้ประกอบวิชาชีพบรรณารักษ์ (ควรมีหรือไม่)
         
artlibrary_01

                   มีเพื่อนๆ หลายคนถามผมว่า “วิชาชีพห้องสมุด” และ “วิชาชีพบรรณารักษ์”
ควรมีการสอบวัดความสามารถและออกใบรับรองผลกันบ้างหรือไม่
วันนี้ผมจึงขอหยิบเรื่องการสอบใบประกอบวิชาชีพบรรณารักษ์มาเขียน
เผื่อว่ามันอาจจะช่วยให้เราคิดและผลักดันวิชาชีพของเราให้มีการตื่นตัวกันมากขึ้น
เพื่อนๆ เคยทราบมั้ยครับว่า ประเทศนึงในกลุ่มอาเซียน
ให้ความสำคัญกับวิชาชีพบรรณารักษ์มาก นั่นคือ ประเทศฟิลิปปินส์
มากจนถึงขั้นว่าต้องมีการสอบ “ใบประกอบวิชาชีพบรรณารักษ์” กันเลย
ใบนี้สำคัญแค่ไหน —> เอาเป็นว่า ถ้าไม่มีใบนี้คุณไม่สามารถทำงานบรรณารักษ์ได้
แล้วถ้าทำงานด้านนี้โดยไม่มีใบประกอบวิชาชีพหล่ะ แน่นอนครับก็ต้องมีบทลงโทษเช่นกัน
ปีหนึ่งมีการสอบเพียงครั้งเดียว พลาดแล้วต้องรอปีหน้า
วัดผลกันแบบว่าต้องให้ผ่านเท่านั้น “ไม่ใช่แค่ไปสอบก็ผ่าน”
ผมขอสรุปผลการสอบในปีที่ผ่านมาให้เพื่อนๆ อ่านกันหน่อยดีกว่า
โดยปีที่ผ่านมาเขาสอบกันไปวันที่ 23-24 เมษายน 2557 ครับ
ปี 2014 มีคนผ่านเพียงแค่ 28% (สอบ 533 คน ผ่าน 149 คน) 
นับเป็นปีที่มีคนผ่านน้อยกว่าปี 2012(47%) และ 2013(46%)
สอบอะไรบ้าง และ คิดคะแนนยังไง
จัดสอบโดย Professional Regulation Commission
- Organization, management and maintenance of multimedia based library or information service, laws, trends and pratices affecting the profession (20%)
- Reference, Bibliography and information services (20%)
- Selection and Acquisition of multimedia source of information (15%)
- Cataloguing and Classification (20%)
- Indexing and Abstracting (15%)
- Information Technology (10%)
เอาเป็นว่าแค่เห็นไกด์ในการสอบแล้ว ผมก็อึ้งแบบเล็กๆ
หน่วยงานที่จัดได้รับการรับรอง การสอบได้มาตรฐาน และที่สำคัญมีผลบังคับใช้
เพื่อนๆ อาจมองว่าต้องเป็นคนฟิลิปปินส์อย่างเดียวหรือเปล่าที่ต้องสอบ
เปล่าครับ ถึงแม้คนต่างชาติที่ต้องไปทำงานด้านนี้ก็ต้องสอบด้วยเช่นเดียวกัน
ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น
เมื่อรวมเป็นประชาคมอาเซียนเผื่อมีคนสนใจไปทำงานที่นั่น 
ก็อย่าลืมไปสมัครสอบด้วยนะครับ ไม่งั้นนอกจากจะไม่ได้ทำงานแล้ว 
อาจโดนลงโทษทางกฎหมายก็ได้นะ

อ้างอิง :http://www.libraryhub.in.th/2014/05/14/librarians-licensure-examination-in-philippines/

ห้องสมุดวัดพระธรรมกาย รับสมัครบรรณารักษ์ 1 อัตรา ด่วน

ห้องสมุดวัดพระธรรมกาย รับสมัครบรรณารักษ์ 1 อัตรา ด่วน

                DMC_Librarian_job

          วันนี้นายห้องสมุดขอนำเสนองานห้องสมุดอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจริงๆ เคยคิดเหมือนกันว่าในวัดหลายๆ แห่งก็มีห้องสมุดมีที่ไหนอยากรับสมัครบรรณารักษ์บ้างมั้ย วันนี้มีคนฝากข่าวมาประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการรับสมัครบรรณารักษ์ในห้องสมุดวัด แถมวัดนี้มีความน่าสนใจอีกด้วย นั่นคือ ห้องสมุด วัดพระธรรมกาย
รายละเอียดเบื้องต้นเกี่ยวกับงานนี้
ชื่อตำแหน่ง : บรรณารักษ์ (สามารถเริ่มงานได้ทันที)
จำนวน : 1 ตำแหน่ง
สังกัด / หน่วยงาน : วัดพระธรรมกาย
สถานที่ปฏิบัติงาน : ห้องสมุด วัดพระธรรมกาย จ.ปทุมธานี
อย่างที่เขียนไว้ด้านบนว่าบรรณารักษ์ที่สามารถเริ่มงานได้ทันทีจะดีมากๆ ดังนั้นแบบว่างานด่วนมากๆ
น้องๆ ที่สนใจอ่านคุณสมบัติเบื้องต้นต่อได้เลย
- เพศหญิง
- อายุ 20 – 27 ปี
- นับถือพระพุทธศาสนา
- สามารถรักษาศีล 5 ได้
- วุฒิปริญญาตรี สาขาวิชาบรรณารักษศาสตร์และสารนิเทศศาสตร์ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง
- มีความรู้และทักษะด้านการสืบค้นข้อมูลคอมพิวเตอร์
- สามารถใช้โปรแกรมพื้นฐานการทำงานได้ เช่น MS Office
- กำหนดเลขหมู่และแยกประเภทหัวเรื่องได้ตามระบบ Library of Congress (หนังสือภาษาอังกฤษ)
อ้างอิง :http://www.libraryhub.in.th/2013/03/21/dhammakaya-library-want-librarian/

เทคโนโลยี BIOMETRIC กับหน้าจอสัมผัสที่สามารถจดจำลายนิ้วมือได้

เทคโนโลยี BIOMETRIC 

กับหน้าจอสัมผัสที่สามารถจดจำลายนิ้วมือได้


หน้าจอสัมผัสชนิดใหม่ที่สามารถระบุผู้ใช้งานได้ผ่านลายนิ้วมือนั้นกำลังจะเกิดขึ้นในไม่ช้า ซึ่งอุปกรณ์ชนิดนี้จะสามารถมอบนิยามใหม่กับความปลอดภัยในระบบออนไลน์ รวมถึงวิธีที่เราใช้งานคอมพิวเตอร์ในที่สาธารณะด้วย
เทคโนโลยีหน้าจอสัมผัสในตอนนี้นั้นปล่อยแสงออกมาแต่ไม่สามารถรับรู้ถึงการมีอยู่ของแสงได้ ซึ่งทำให้เป็นไปไม่ได้ที่จะจดจำลายนิ้วมือของผู้ใช้งานเว้นเสียแต่ว่าจะมีตัวเซ็นเซอร์ต่างหากถูกติดตั้งเพิ่มลงไปในหน้าจอ ซึ่งสองนักวิจัย Christian Holz และ Patrick Baudisch จาก Hasso Plattner Institute ที่เยอรมันต้องการที่จะเปลี่ยนแปลงมัน
หน้าจอนั้นไม่สามารถแสกนลายนิ้วมือได้ และเซ็นเซอร์ตรวจหาลายนิ้วมือนั้นก็ไม่สามารถแสดงภาพได้เช่นกัน สิ่งที่เราได้คิดค้นขึ้นมานั้นทำได้ทั้งสองอย่างไปพร้อมๆกัน ซึ่งยังไม่เคยมีใครทำมาก่อน” Holz กล่าว
รุ่นทดลองที่พวกเขาสร้างขึ้นในหน้าจอแก้วที่มีขนาดเท่ากับแทบเบล็ตขนาดใหญ่ ซึ่งภายในบรรจุไปด้วยเส้นใยแก้วนับล้านรวมอยู่ด้วยกัน เส้นใยแต่ละเส้นนั้นจะปล่อยแสงสว่างออกจากภาพที่ถูกฉายอยู่ข้างใต้หน้าจอ ในขณะเดียวกันก็ยิงแสงอินฟราเรดออกไปเพื่อให้สะท้อนนิ้วมือกลับมาที่กล้องอินฟาเรด
Holz กล่าวว่าในการทดสอบขึ้นตอนนั้น ความแม่นยำของอุปกรณ์นั้นเทียบเท่ากับมาตรฐานของหน่วยงาน FBI เลย ซึ่งทั้งคู่นั้นก็กำลังพยายามที่จะสร้างหน้าจอสัมผัสที่ไม่จำเป็นต้องใช้ตัวโปรเจกเตอร์อยู่ในตอนนี้

ทั้ง Holz และ Baudisch นั้นได้จินตนาการถึงร้านกาแฟที่ลงทุนไปกับโต๊ะหน้าจอสัมผัสที่ลูกค้าสามารถใช้งานอินเตอร์เน็ต ตอบอีเมล์หรือทำงานง่ายๆได้โดยไม่ต้องพกเครื่องคอมพิวเตอร์พกพาเข้ามาในร้าน  ด้วยเทคโนโลยีที่สามารถช่วยให้จดจำลายนิ้วมือดังกล่าวนี้ เหล่านักวิจัยได้จินตนาการไปถึงสภาพแวดล้อมที่เอกสารคอมพิวเตอร์สำคัญๆสามารถส่งต่อให้กันอย่างปลอดภัยได้ง่ายๆเสียที

i-Secure พันธมิตร UIH คว้ารางวัลสุดยอด MSSP ต่อเนื่องปีที่ 2


i-Secure พันธมิตร UIH คว้ารางวัลสุดยอด MSSP ต่อเนื่องปีที่ 2


                    
                            ตอกย้ำความสำเร็จทางด้าน ICT Security ของ i-Secure อีกครั้ง กับรางวัลผู้ให้บริการทางด้านการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยทางด้านสารสนเทศยอดเยี่ยมแห่งปี (Managed Security Services Provider of the Year 2014)
นับเป็นปีที่ 2 ต่อเนื่องกัน ที่ i-Secure พันธมิตรทางด้าน ICT Security ของ UIH ได้รับรางวัลอันทรงเกียรตินี้จากงาน 2014 Frost & Sullivan Thailand Excellence Awards i-Secure ผู้ให้บริการด้านความปลอดภัยข้อมูลสารสนเทศ หรือ ICT Security ได้รับมอบรางวัลอันทรงเกียรติจาก Frost & Sullivan องค์กรให้คำปรึกษาและวิจัยระดับโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่

                           ทั้งนี้ i-Secure ยังคงเดินหน้าให้ความรู้และให้คำปรึกษาทางด้าน ICT Security อย่างต่อเนื่องกับองค์กรลูกค้า และยังพัฒนาบริการให้ทันสมัยโดยรู้เท่าทันภัย สามารถป้องกันภัยคุกคามทางด้านไซเบอร์ทุกด้านอย่างครบถ้วน ซึ่งใช้ 3 แนวคิดหลัก คือ การป้องกัน (Protection) การตรวจสอบ (Detection) และการแก้ไข (Correction) นอกจากนี้ ยังพัฒนาบริการให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของลูกค้า i-Secure นำบริการด้าน Security as a Service บริการ Security ในรูปแบบ Cloud Services เป็นบริการที่คุ้มค่าสำหรับลูกค้าที่ไม่ต้องการลงทุนด้านอุปกรณ์ อาทิ Cloud Protection, Cloud WAF, Security Monitoring Service, Log Management Service, Cloud Wifi
                      พร้อมกันนี้ ยังเดินหน้าต่อเนื่องในบริการทางด้าน Managed Services คือ บริการด้าน Security อย่างครบวงจรสำหรับลูกค้าที่ต้องการความปลอดภัยสูงสุดโดยที่มีผู้เชี่ยวชาญด้าน Security ดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากการพัฒนาบริการด้าน Security อย่างครบวงจรแล้ว ยังมีการคัดเลือกผู้เชี่ยวชาญด้าน Security ที่มีความรอบรู้และมีทักษะเฉพาะด้านมาร่วมทีมอยู่เสมอ เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า ระบบสารสนเทศของลูกค้าองค์กรจะมีความปลอดภัย ข้อมูลสูงสุด โดยมีผู้เชี่ยวชาญทางด้าน Security ดูแลอย่างใกล้ชิด

อ้างอิง : http://www.thairath.co.th/content/426494

วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2557

BLOG
Blog คืออะไร
     
                              Blog มาจากศัพท์คำว่า WeBlog บางคนอ่านคำ ๆ นี้ว่า We Blog บางคนอ่านว่า Web Log แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ทั้งสองคำบ่งบอกถึงความหมายเดียวกัน ว่านั่นคือบล็อก (Blog)
      ความหมายของคำว่า Blog ก็คือการบันทึกบทความของตนเอง (Personal Journal) ลงบนเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของ blog นั้นจะครอบคลุมได้ทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวส่วนตัว หรือเป็นบทความเฉพาะด้านต่าง ๆ เช่น เรื่องการเมือง เรื่องกล้องถ่ายรูป เรื่องกีฬา เรื่องธุรกิจ เป็นต้น โดยจุดเด่นที่ทำให้บล็อกเป็นที่นิยมก็คือ ผู้เขียนบล็อก จะมีการแสดงความคิดเห็นของตนเองใส่ลงไปในบทความนั้น ๆ โดยบล็อกบางแห่ง จะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวจิตใจผู้อ่านสูงมาก แต่ในขณะเดียวกัน บางบล็อกก็จะเขียนขึ้นมาเพื่อให้อ่านกันในกลุ่มเฉพาะ เช่นกลุ่มเพื่อน ๆ หรือครอบครัวตนเอง
                                  มีหลายครั้งที่เกิดความเข้าใจกันผิดว่า Blog เป็นได้แค่ไดอารี่ออนไลน์ แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไดอารี่ออนไลน์เปรียบเสมือน เนื้อหาประเภทหนึ่งของบล็อกเท่านั้น เพราะบล็อกมีเนื้อหาที่หลากหลายประเภท ตั้งแต่การบันทึกเรื่องส่วนตัวอย่างเช่นไดอารี่ หรือการบันทึกบทความที่ผู้เขียนบล็อกสนใจในด้านอื่นด้วย ที่เห็นชัดเจนคือ เนื้อหาบล็อกประเภท วิจารณ์การเมือง หรือการรีวิวผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่ตัวเองเคยใช้ หรือซื้อมานั่นเอง อีกทั้งยังสามารถแตกแขนงไปในเนื้อหาในประเภทต่าง ๆ อีกมากมาย ตามแต่ที่เจ้าของบล็อกจะเป็นคนที่ถนัดในด้านไหน ก็มักจะเขียนบทความเรื่องที่ตนเองถนัด หรือสนใจเป็นต้น

                                   และจุดเด่นที่สุดของ Blog ก็คือ มันสามารถเป็นเครื่องมือสื่อสารชนิดหนึ่ง ที่สามารถสื่อถึงความเป็นกันเองระหว่างผู้เขียนบล็อก และผู้อ่านบล็อกที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนของบล็อกนั้น ๆ ผ่านทางระบบ comment ของบล็อกนั่นเอง

อ้างอิง : angsila.informatics.buu.ac.th/~athitha/.../blog/Blog.doc